วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[ "ม่ อ น แ จ่ ม" แ ห ล่ ม เ ล ย ]



[ "ม่ อ น แ จ่ ม" แ ห ล่ ม เ ล ย ]

22 ต.ค 59
            นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวม่อนแจ่มส่วนใหญ่ก็จะขึ้นไปชมวิวและสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นบนสันเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร นอกจากนี้บนม่อนแจ่มก็ยังมีร้านอาหารอร่อยให้กินอีกด้วย ม่อนแจ่ม คือ ส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหนองหอย ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โครงการหลวงหนองหอยนั้นเป็นโครงการปลูกพืชเมืองหนาว บนดอย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผักสดๆ และ สตรอเบอรี่ทั้งพันธ์หวาน พันธ์กรอบ และม่อนแจ่มนั้นเป็...นที่พักแบบแคมปิ้งรีสอร์ท มีทั้งแบบบ้าน และ แบบกางเต๊นท์ ซึ่งได้รับความนิยมมากสำหรับคนเมืองที่ต้องการบรรยากาศที่สวยๆ อากาศที่ดีๆ วิวโดยใจกับหมอกที่เต็มไปด้วยไอเย็นมาปะทะเข้ากับลำตัว สดชื่นแบบบอกไม่ถูกกันเลย ต้องลองมาสักครั้ง และที่สำคัญเป็นแหล่งชาร์จแบตให้กับตัวเองที่ยอดเยี่ยมที่เหมาะแก่การแนะนำให้ไปสัมผัส ออกจากม่อนแจ่มมาประมาณ 400 m ก็จะถึง "ม่อนอิงดาว" "ม่อนวิวงาม" และ "ม่อนตะวัน" บรรยากาศสวยงามมีทิวเขาสลับซับซ้อน ราคาเต้นท์ นอน 2-3 คน ราคา 500 บาท ถ้าจะนอนบ้านก็ได้นะต้องจองล่วงหน้า ถ้าเป็นช่วงเดือน พ.ย. ราคาอาจจะแพงขึ้นนิดหน่อย ถ้าที่พักเต็ม แนะนำให้ไปนอนเต้นท์ ที่ "ม่อนอิงดาว" เพราะมีเต้นท์รองรับนักท่องเที่ยวประมาณ 100 หลัง ซึ่งเยอะมาก

การเดินทาง : ประมาณ 38 km ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ มาทาง ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ บนเส้นทาง 107 ขับมาเรื่อยๆประมาณ 15 km จนเข้า อำเภอแม่ริม จะเห็นสามแยก คลินิกหมอพจน์ เลี้ยวซ้ายไปเลย บนเส้นทาง 1096 ขับไปอีกประมาณ 16 km จะเข้าบ้านโป่งแยก มีสามแยกให้เลี้ยว ขวา เข้าเส้นทางหลวงชนบท 4051 ในระหว่าขับรถให้ลดความเร็วลงเพราะเริ่มขึ้นเขา และมีทางโคร้งเยอะอาจทำให้เกิดอันตรายได้โอยเฉพาะผู้ที่ไม่ชำนาญเส้นทาง หลังจากเข้าเส้นทางหลวงชนบทแล้ว ขับเข้ามาให้มองดูตามป้ายเลยจะมีป้ายบอกไปถึง “ม่อนแจ่ม” ระยะทางประมาณ 7 km ก็ถึงแล้ว ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวนะคะ

ที่ตั้ง : ม่อนอิงดาวรีสอร์ท ต.โป่งแยง อ.แม่ริม เชียงใหม่ ม่อนอิงดาว อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและป่าเขา อยู่ใกล้กับไร่สตอเบอรี่ และ แปลงผัก ที่ชาวบ้านปลูกขึ้นมา ห่างจากม่อนแจ่มไปเพียง 400 m
โทร 086-216-7405,089-952-0202

GPS : 18.936495 98.821773 ( Coppy ไปลงใน google ได้เลยคะ)

#ม่อนแจ่ม เชียงใหม่
#ม่อนอิงดาว (Resort)
#ม่อนวิวงาม
#ม่อนตะวัน วิว360'เชียงใหม่
#ท่องเที่ยวไทย

 การสัมผัสหมอกแบบใกล้ๆเป็นที่ต้องการของใครๆหลายๆคน เพราะ ฉนั้นเราจะไป "กอดทะเลหมอกก" กัน

 มาถึงม่อนแจ่ม ต้องมาถ่ายรูปคู่กับเด็กน้อยชาวดอย

 "ม่อนแจ่ม"

            มาเที่ยว "ม่อนแจ่ม" สิ่งที่สำคัญเลย เราต้องติดต่อที่พักไว้ก่อนที่จะเดินทางมานะคะ เพราะช่วงเทศกาล ที่พักจะเต็ม หรือถ้าใครอยากนำเต้นท์มาเองก็สะดวกคะ ตอนเรามาถือว่าโชคดี ช่วงปลายเดือน ตุลาคม คนกำลังเริ่มจะมาเที่ยวทางเหนื่อกัน ที่พักยังมีให้เราได้เลือก   เราเลือกที่พัก " ม่อนอิงดาว"

            ราคาเต้นท์ นอน 2-3 คน ราคา 500 บาท วิวด้านหน้าเป็นภูเขาสลับกัน เราไม่ได้จองเต้นท์ก่อน เลยได้นอนด่านล่าง แต่ถ้าจะจองเต้นท์ที่ ม่อนอิงดาว ต้องเลือกด้านบนสุด จะได้มองเห็นสันเขาสวยงามในตอนเช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้นได้เลย สวยงามตามท้องเรื่องแน่ๆ

 หรือใครอยากจะนอนแบบบ้าน ก็มีนะ ส่วนราคาลองโทรติดต่อสอบถามอีกทีนะคะ

 เราคิดว่าตัวเองอยู่ล่างสุดแล้วนะ ยังมีคนอื่นอีกเหรอ (เขามาทีหลังเรา อิอิ)

 ตื่นมาก็หิวแล้ว จัดส้มตำกันเลยจร้า

 "ม่อนอิงดาว"

 อีกมุม

 ลองเดินขึ้นมาถ่ายรูปด้านบน วิวสวยงามเลยคะ

               ขับรถมาอีกนิดเดียวก็จอ "ม่อนตะวัน" พอดีเดินมาติดต่อเเล้วที่พักเต็ม วิวก็สวยไม่แพ้กัน ตื่นเช้าเลยรีบมาเก็บภาพข้างบนชะหน่อย
 แนวสันเขาสวยงามมาก "รักเขา ก็ไปหาเขา" นะจ๊ะ

 อีกมุม ตอนขับรถขึ้นมาตื่นเต้นมาก

             หมู่บ้านชาวเขา ที่มีอาชีพหลัก คือ เกษตรฯ ตามแนวทางพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ซึ่งได้เปลี่ยนจากป่าฟิ่น มาเป็น เกษตรหลวงฯ บนพื้นที่ทางตอนเหนือ และยังมีอีกหลายๆที่

 อากาศบนยอดดอย หนาวสุดๆ

          ช่วงเดือนตุลาคม ผักกาด เขากำลังเริ่มจะปลูก นักท่องเที่ยวก็เริ่มจะมาสัมผัสกลัวไม่ได้ภาพสวยๆก็ขอให้เดินอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ เพราะผักเหล่านี้ คือเงินที่เลียชีวิตของคนบนดอย


 มุมนี้ผักกาดเริ่มโตแล้วววววว

 ที่พักตามแนวสันเขา

 เห็นคนไหม?



 ทางขึ้น "ม่อนแจ่ม"

 ร้านค้าขายของที่ระลึก และอาหารก็มีนะคะ

 คนเยอะมาก

 เครื่องเล่นของชาวเขา ไม่รู้เหมือนกันเขาเรียกว่าอะไร 555

 ใครที่ต้องการเล่นก็จ่ายเงินแล้วนั่งรถยนต์ขึ้นไปจุดปล่อยตัวด้านบนเลยจร๊า ราคา 80 นั่งได้ 2คน

 ขับดีๆน๊า


 นั้นไม่ใช่ควัน แต่มันคือ หมอกที่กำลังจะวิ่งผ่านเราไปอีกฝั่ง ข้างหน้าคือร้านอาหาร

 เด็กดอยที่ม่อนแจ่ม น่าตาน่ารักจิ่มลิ้มมาก

หลังจากเดินเที่ยวชมวิวทิวทัศน์เสร็จ ก็เดินเลือกชื้อของฝาก กันคะ หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับ บะบ๊าย


ติดตามเราได้ที่ เพจ



[ ภู ก ร ะ ดึ ง : Phu Kradueng ]

    
          [ ห น า ว นี้ ที่ : ภู ก ร ะ ดึ ง (Phu Kradueng) ]

         อุทยานแห่งชาติ "ภูกระดึง" ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505 ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.13 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึงประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,316 เมตร สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพองซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาที่หวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต ธันวาคมนี้ก็เหมาะเลยที่จะต้องไปพิชิตให้ได้ ระยะทางจากจุดเริ่มต้นถึงหลังแปก็ 5.5km เดินแทบจะขาลากกว่าจะผ่านแต่ละซำ (น่าจะมี 8 ซำเนียะแหละ )ซำแฮก ก็เกือบตายล่ะ 555 มาต่อหลังแป อีก 3.5 km สบายเลย ถึงที่พักหลับยาว เดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ ผาหล่มสักอีกประมาณ 9 km นี้แหละเสนห์ของภูกระดึงต้องมาพิชิตให้ได้

สิ่งที่ต้องเตรียม
- ครีมกันแดด
- หมวก  ปลอกแขน  ถุงเท้า  อุปกรณ์กันหนาว
- ปูนขาว ไว้โรยรอบเต็นท์
- ไฟฉาย
- ยาดม
- ยากันยุง กันทาก กันแมลง
- รองเท้าแตะ
- เสื้อกันฝน
- เงิน
- กล้องคู่ใจ และอุปกรณ์ทำความสะอาด

การเดินทาง รถประจำทางที่ หมอชิต มีของ บขส. แอร์เมืองเลย ชุมแพทัวร์ ฯลฯ
1.บขส. มีVIP.24ที่นั่ง, ป1 ,ป2
2.แอร์เมืองเลย
ลงที่ผานกเค้า แอร์เมืองเลย ส่งหน้าร้านเจ๊กิม บขส. ลงฝั่งตรงข้าม แล้วต่อรถสองแถวไปที่ทำการทางขึ้นภูกระดึง ราคา 20/คน ระยะทาง 15 กิโล
ถ้ามากันน้อยต้องเหมาไป ราคาประมาณ 100 บาท
ที่ตั้ง บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย
โทรศัพท์ : 042-810833
อีเมล์ : pkd_11@hotmail.co.th
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท

พิกัด 16.87101 101.808569 (coppy ไปวางใน google ได้เลยคะ)

แผนที่เดินทาง

          การเตรียมตัวขึ้นภูกระดึงก็ง่ายๆเลย ต้องฟิตร่างกายให้ดี และรองเท้าที่ใส่แล้วเดินได้สะดวก เพราะหนทางยังอีกยาวไกล

          เดินหาศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน เพื่อที่เราจะติดต่อขอขึ้นภูกระดึง จ่ายเงิน ค่าธรรมเนียม สำหรับการกางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน เครื่องนอน เสื่อ,หมอน,ผ้าห่ม ไปเช่าด้านบน จ่ายเงิน ด้านบน ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง


        ในช่วงฤดูฝน มักเกิดภัยธรรมชาติ เช่น เกิดการพังทะลายของภูเขาและมีน้ำป่า ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดให้ปิด-เปิดการท่องเที่ยวเฉพาะบนยอดเขาภูกระดึงเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและให้สภาพธรรมชาติและสภาพแวดล้อมได้มีการพักฟื้นตัว หลังจากนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอย่างมากในแต่ละปี
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี

          พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขาอยู่ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 400-1,200 เมตร มีพื้นที่ราบบนยอดเขากว้างใหญ่คล้ายรูปใบบอนประกอบด้วยเนินเตี้ยๆยอดสูงสุดคือบริเวณคอกเมยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,316 เมตร


ทางขึ้น ภูกระดึง เห็นเเล้ว ขาอ่อนกันเลยที่เดี่ยว 5.5 Km ก็จะถึง หลังแป เอง ชิวๆ สบายมากสู้ไหมเพื่อนๆ

go go go

           สู้ๆ จ้า เห็นแค่ทางเดินก็เหนื่อยล้าแล้ว พื้นที่ทางเดินส่วนใหญยังคงเป็นธรรมชาติมาก มีก้อหินสลับซับซ้อนให้ปีนเล่นกันยาวเลย

รอฉันด้วยๆๆๆๆๆๆ

ขนาดลูกหาบยังต้องนั่งพัก แล้วเราล่ะ ( มุ่งหน้าเดินต่อ 555 ) ไม่ได้พักนะคะ

           ภูกระดึง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุม เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าและลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าภูกระดึงมีหลายชนิดที่พบเห็นได้ทั่วไป

เส้นทางเเดิน

ในระหว่างทางเดินไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอาหารกิน ร้านค้ามีเป็นระยะ พักกันก่อนเนอะ

ซำกกกอก

ไอติมหลอดเย็นๆใหมค่ะ อาหารป่าก็มีนะ มัน เผือก กล้วย และผลไม้อื่นๆ

ถึงเวลาต้องเดินทางต่อไปแล้วคนมากันเยอะเลย

ลูกหาบจะคิดตามน้ำหนักกิโลกรัมละ 30 บาทคะ เขาแบกได้ไงอ่ะ

ระหว่างทางเดิน

ในที่สุดเราก็มาถึงหลังแปแล้ว

เดินพื้นราบ ประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทาง 3.5 Km ก็จะถึง ที่พัก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง

เดินชมวิวกันไป


หลังจากเวลา 14.00 น. ห้ามนักท่องเที่ยวลงเขา

เย้ๆๆ ถึงเเล้ว "ครั้งหนึ่งในชิวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง"

พระอาทิตย์ตก ที่ ผาหมากดูก

ผาหล่มสัก จุดชมพระอาทิตย์ตกยอดฮิตของภูกระดึง  ใครมาภูกระดึงก็ต้องมาที่นี่คะ  


พระอาทิตย์ก็กำลังจะตกพอดี
หลังจากดูหระอาทิตย์ตกเราก็เดินกลับที่พัก เหนื่อๆแล้ว




ติดตามเราได้ที่ เพจ



ขอบคุณภาพสวยๆจากเพื่อน   Patdle pop